วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความงามที่พอเพียง

บนโลกของมนุษย์เรานั้น คำว่าพอเพียง ยังใช้ได้กับทุกเรื่องไหมคะ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า “ไม่”แล้วทำไมถึงคิดเช่นนี้ ก็ขออธิบายตามนี้แล้วกันคะ

ความงามที่พอเพียงนั้น จริงๆ ก็ใช้หลักของการใช้ชีวิตที่เพียงพอเข้ามาควบคู่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของคนเรา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณของหน้าตา ,แขน,ขา,สะโพก,เอว เล็บมือ ฯลฯซึ่งล้วนแต่เป็นความงามที่อยู่ภายนอกทั้งนั้น ซึ่งคนทุกคนก็จะไม่มองข้ามอะไรที่เป็นภายนอกของตัวเอง และจะมองหาสิ่งอื่นที่ช่วยให้ความงามภายนอกนั้นดูดีอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่มักจะมองหากันนั้นก็คือ วิวัฒนาการด้านความงามต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ ของผิวพรรณความงามสำหรับคนที่กำลังเสาะแสวงหาอยู่นั้นได้ดีทีเดียว อีกอย่างคนรอบข้างเราก็มีส่วนทำให้คนอีกกลุ่มกลายเป็นมนุษย์ศัลยกรรมไปแล้วนักต่อนัก

เพราะความงามยอมกันไม้ได้ จนทำให้คนเรานั้นลืมในสิ่งที่เราเองมีมาตั้งแต่เกิด คือความงามที่มาจากรากฐานของความพอเพียง และแทบไม่ต้องไปเสียเงินทีเยอะๆเหมือนสถาบันความงามด้วย เพียงแต่ มนุษย์เรานั้นมักจะเลงเห็นสิ่งที่มาไว มาเร็ว ได้ผลเร็ว จนมองข้ามสิ่งที่เป็นอยู่จริงของชีวิต หรือสิ่งที่ต้องใช้เวลาควบคู่แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งควรรักษาไว้ แต่มักมองข้ามกัน แล้วก็พากันไปรับบริการต่างๆ ที่ทันสมัยกว่า ความงามแบบพอเพียงที่ว่านั้น ก็หมายถึง สุขภาพที่เราได้รับจากการใช้ชีวิตโดยพึ่งพาสมุนไพรพืชผักเป็นอาหารการอยู่การกิน รวมทั้งใช้ชีวิตในแต่ละวันให้คุ้มค่า ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นเสมอเหมือนที่บรรพบุรุษเราปฏิบัติกันในสมัยก่อน

คนสมัยก่อนนั้น ไม่รู้จักคำว่า ครีมบำรุงผิว เพราะคนในสมัยก่อนอยู่กับชีวิตที่พอเพียง อยู่กับสมุนไพรต่างๆ ที่ทำขึ้นมาใช้กันเอง ทั้งใช้ดูแลผิวพรรณภายนอกส่วนภายในใช้โดยเป็นผักรับประทาน ก็มี ทำให้คนสมัยก่อนนั้นมีร่างกายที่แข็งแรง ไปพร้อมๆกับผิวพรรณที่เปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา ยิ่งสาวๆ หรือหนุ่มแรกแย้ม (หมายถึงว่ากำลังแตกเนื้อ) ผิวพรรณยิ่งผุดผ่อง มองแล้วก็จะพูดกันว่า แตกเนื้อหนุ่มหรือแตกเนื้อสาว นั่นเอง

อยากให้เพื่อนๆ ทุกคน รู้จักดูแลตัวเองโดยพึ่งหลัก ความพอเพียง เหมือนคนในสมัยก่อนดูบ้าง ไม่จำเป็นที่เรานั้นจะต้องไปพึ่งพา สิ่งที่เข้ามาในรูปแบบใหม่ต่างๆ เหมือนดาราที่นิยมกัน เพราะดาราเขาต้องใช้หน้าตาในการทำงาน ต่างจากคนทั่วๆไป ซึ่งถ้าลองปรับเปลี่ยนมุมมองของชีวิต นอกจากจะไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ แล้วเพื่อนๆ ก็จะคงไว้ซึ่งแนวพระราชบัญญัติของพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย เป็นการสนองแนวความคิด ของท่านที่ได้ ตั้งโครงการที่ชื่อว่า ความพอเพียงในการใช้ชีวิต ขึ้นมานั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น