1. การกัดเล็บ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ล้วนมีพฤติกรรมแบบนี้ได้ทั้งนั้น เวลาที่คุณกัดเล็บตัวเอง คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากเชื้อโรคที่จะเข้าไปในร่างกายของคุณแล้ว ยังแสดงออกถึงบุคลิกภาพ ของคุณที่ไม่น่ามองอีกด้วย
2. ละเลยสารกันแดด เวลาออกไปไหนมาไหน คุณก็ใช้ผิวพรรณ ของคุณเป็นเกราะกันแดดเพียงลำพัง ไม่หาอุปกรณ์เสริมให้พวกเขาเหล่านั้นเลย ทุกวันที่เราออกไปข้างนอกแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย กับรังสี UVA และ UVB รังสีพวกนี้นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำและดำได้ง่าย ยังก่อตัวเป็นมะเร็งสะสมในผิวหนังของคนเราทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆต้องทาครีมกันแดดเวลาออกจากบ้านเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ อาจจะป้องกันได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่ารับรังสีทั้ง 2อย่างนี้เต็มๆ
3. การบีบสิว บางคนเค้นเอาเป็นเอาตาย บีบแล้วกด กดไม่ออกก็งัดอยู่นั้นแหล่ะ หารู้ไม่ว่าคุณกำลังทำร้ายผิวของคุณอยู่ ซึ่งแผลหลังจากที่คุณบีบ จะกลายเป็นแผลเป็น ถ้าสิวเม็ดนั้นใหญ่ และ คุณบีบมันจนลึก กว่าจะหายได้ต้องใช้เวลานาน บางคนไม่หายกลายเป็นรอยแผลเป็นให้ช้ำใจเล่น หรือกลายเป็นจุดด่างดำไปเลย
4. ชอบเลียปาก การเลียปาก ส่วนมากทำกันโดยติดเป็นนิสัยมากกว่า แต่บางครั้งอากาศก็มีส่วน แต่การที่เราหาทางออกด้วยการเลียปากนั้น จะทำให้ปากเราแห้ง และแตกเป็นขุย เพราะอะไรนะเหรอค่ะ เพื่อนๆ ทราบไหมค่ะว่า น้ำลายคนเรานั้น มีเอนไซน์ทำให้ความชุ่มชื่นบนริมฝีปากแห้งลงกว่าเดิม รู้อย่างนี้แล้วเวลาปากแตก หรือ ปากแห้งให้หาลิปบาล์มมาใช้ซะ เพราะช่วยให้ริมฝีปากของคุณชุ่มชื่น เอาที่มีสารกันแดดด้วยยิ่งดี เพราะริมฝีปากเราถ้าโดนแดดมากๆ ก็จะคล้ำและดำ เหมือนคนดูดบุหรี่เลยหล่ะ และแนะนำอย่าใช้ ลิปบาล์ม ร่วมกับคนอื่น เพราะแทนที่จะดีใจเพราะปากหายแตก แต่กลับเครียดเพราะติดเชื้อโรค อย่างอื่นมาแทน...
5. บุหรี่ การสูบบุหรี่ นอกจากจะทำร้ายตัวผู้สูบแล้ว ยังทำร้ายผู้อื่นอีกด้วย เพราะสารเคมีที่ชื่อ คาร์บอนมอนอกไซด์และนิโคติน ที่อยู่ในควันบุหรี่ คือสิ่งที่ทำร้ายผิวคุณอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการไปทำลายสารอนุมูลอิสระ หรือทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ที่มีอยู่ในตัวเรานั้น เมื่อสารเหล่านี้ไปสัมผัสกับร่างกายเราจะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย และขาดความยืดหยุ่นของผิวนั่นเอง
6. ขัดผิว บางคนคิดว่าการขัดผิวนั้นเป็นการผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไปแล้วก็จะได้เซลล์ผิวใหม่ที่ใสขึ้น แล้วก็จะขัดตามใจตัวเอง ไม่คำนึงถึงผิวตัวเองเลยว่า มันไม่ไหวแล้วนะ มีแต่ขัดไม่มีการบำรุงเลย ที่จริงการขัดผิวนั้นถ้าเป็นผิวหน้า ควรทำ แค่ สัปดาห์ ละ 1-2ครั้งก็พอแล้ว เพราะถ้าขัดเยอะไปเดี๋ยวผิวจะบางและแห้งกร้านได้ง่าย จะทำให้ไม่สามารถทนต่อแดดได้ ส่วนผิวกายก็เดือนละ 1-2 ครั้งก็พอ โดยขัดผิวในลักษณะวงกลมเบาๆ หลังจากขัดเสร็จก็ควรหาผลิตภัณฑ์ที่มี ส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์มาใช้เพื่อคงความชุ่มชื่นแก่ผิวของคุณด้วยนะคะ
7.หลับคาเครื่องสำอาง การที่เพื่อนๆ เอาเครื่องสำอางไปไว้บนใบหน้า ก็ถือว่าเป็นภาระและหน้าที่ของ ใบหน้าที่จะแบกรับความอยากสวยอยากงามของคุณไว้ และก็แบกมันมาทั้งวัน บางคนอยากสวยแต่ไม่นึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังละเลยบ้างในบางครั้ง ผู้เขียนคิดว่าคงเคยมีแหล่ะที่เราหลับ โดยไม่ล้างเครื่องสำอางออกจากหน้าเราก่อนที่จะนอน ซึ่งทำให้ใบหน้าของคุณเกิดการอุดตันจากเครื่องสำอางที่คุณใช้นั่นแหล่ะค่ะ แล้วก็ตามมาซึ่งสิวและริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์มาทั้งวัน เพราะรองพื้นที่คุณ รองบนใบหน้านั้น จะก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ถ้าคุณไม่รีบล้างมันออก เพราะผิวหน้าของคุณแทบจะไม่ได้หายใจเลย เพราะเจ้าพวกเมกอัพทั้งหลายนี้เอง เพราะฉะนั้นแล้วหลังเลิกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ควรล้างหน้าให้สะอาดแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์แล้วกันนะจ๊ะ(ง่วงแค่ไหนก็ไปที่อ่างล้างหน้าให้ได้ก่อน จะได้มีผิวที่สวยอยู่เสมอ)
8. ขยี้ตา เวลาคันหรือระคายเคืองตรงรอบดวงตาส่วนมากแล้วก็จะมัก ขยี้แรงๆ ให้หายจากอาการคัน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมค่ะ ว่าดวงตาคนเราเป็นจุดที่บอบบางมาก แม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ยังต้องเลือกใช้เฉพาะเลย เวลาที่เราขยี้ตานั้น จะทำให้เลือดมาเลี้ยงเปลือกตามากกว่าปกติและทำให้เส้นเลือดแตกตรงใต้ผิวหนัง ซึ่งบริเวณใดที่เลือดมาเลี้ยงมากและเส้นเลือดแตก ทำให้ผิวรอบดวงตามีสีที่คล้ำได้เสมอค่ะ ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงในการขยี้ตาโดยตรง อาจจะใช้วิธีลืมตาในน้ำก็ช่วยลดอาการระคายเคืองได้ค่ะ
8 พฤติกรรมทำร้ายคุณที่ได้กล่าวมานั้นเพื่อนๆคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรอกจริงไหมค่ะ ทางที่ดีเลิกซะตั้งแต่วันนี้ ฝึกตัวเองให้เป็นนิสัยจะได้ใช้ชีวิตคู่กับสุขภาพดีๆไปตลอดกาลค่ะ
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น